รัฐบาลไฟเขียว ไทยแลนด์ พรีวิเลจ การ์ด สร้างฐานนักท่องเที่ยว ใช้ประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สอง ที่ห้องประชุม อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการแถลงข่าวภายหลังจากการประชุม คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยครั้งพิเศษ เมื่อบ่ายวันนี้ เกี่ยวกับโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (22 ก.ค.) ว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญต่อรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้หลักในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีถึงปีละกว่า 300,000 ล้านบาท จึงตั้ง เป้าที่จะเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้น 3 เท่าภายในระยะ 6 ปีต่อจากนี้ หรือคิดเป็น 1 ล้านล้านบาท โดยรายได้ที่เกิดขึ้นมาจากนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีการใช้จ่ายสูง จึงต้องสร้างความถี่ในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น มีระยะพำนักนานวัน ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราการใช้จ่ายต่อคนรวมทั้งให้กระจายไปสู่อุตสาหกรรมที่ เกี่ยวเนื่องกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โครงการบัตรสมาชิกพิเศษ หรือ Thailand Privilege Card จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ จะขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม High End ที่เป็นผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและเอกชน เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ นักธุรกิจ นักลงทุน จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งกลุ่ม expats ในไทย รวมจำนวนจำกัด 1 ล้านคนภายใน 5 ปีจากการขายบัตรสมาชิกบัตรละ 1 ล้านบาท โดยสมาชิกที่ผ่านคุณสมบัติจะได้รับเอกสิทธิ์พิเศษสูงสุดระดับประเทศ ครอบคลุมบริการของทั้งภาครัฐและเอกชนในด้านการใช้บริการข้อมูลข่าวสาร การลงทุน การจองและซื้อสินค้าบริการด้านการท่องเที่ยว ในราคาส่วนลดพิเศษ เช่น พาหนะการเดินทางหลากหลายประเภทร้านอาหารมาตรฐาน ห้องพักระดับโรงแรม 5 ดาว รายการนำเที่ยวระดับวีไอพี ทั้งภายในประเทศ และทั่วภูมิภาคเอเชีย บริการระหว่างการเดินทาง อาทิ ความสะดวกรวดเร็วในการตรวจลงตรา พร้อมได้วีซ่าที่มีระยะเวลาการพำนักนาน การต้อนรับ พาหนะรับ-ส่งจากสนามบินถึงที่ พัก รวมถึงการใช้สิทธิประโยชน์ด้านกีฬาและสุขภาพ ทั้งสนามกอล์ฟ สปาและการตรวจเช็คร่างกายฟรี นอกจากนี้นักลงทุนจะได้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการและดูแลควบคุมโดยระบบกลไกของทรัสต์พิเศษที่จัดตั้งโดยสถาบันการเงินของรัฐ สำหรับขั้นตอนการดำเนินการ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้จัดตั้งบริษัท Thailand Privilege Card จำกัด มี ททท.เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งโครงสร้างของบริษัท มีคณะกรรมการบริหารบริษัทคอยกำกับ ตรวจสอบ ดูแล และวางกลยุทธ์ โดยแต่งตั้งผู้จัดการที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านธุรกิจสูง มีฝ่ายธุรกิจ ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุน ฝ่ายปฏิบัติการ มีทีมขาย ที่จะต้องหาสมาชิกได้รวดเร็ว และในระยะต่อไปสามารถนำรายได้จากการขายบัตรสมาชิกมาใช้หมุนเวียนทางการลงทุน ในด้านการส่งเสริมพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการหารายได้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากการพัฒนาบริการและมาตรฐานไปสู่ระดับนานาชาติมากขึ้น |